Quote from ufabet on กุมภาพันธ์ 3, 2025, 4:02 am
นมดีกว่า หรือ เปลือกไข่ดีกว่า
ผมเห็นกลุ่มfbปลูกผักกลุ่มหนึ่งเขา เถียงกันยกใหญ่
สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านเยอะ
ผมขอสรุปให้ก่อนละกันว่ามันก็เหมือนข้าวสวยกับข้าวสาร
มันไม่ได้อยู่ที่ข้าวว่าอันใหนดีกว่ากันเพราะมันก็คือคาร์โบไฮเดรตเหมือนกันกินเข้าไปก็ไปย่อยเป็นน้ำตาลเหมือนกัน
มันต่างตรงที่ต้นไม้ของคุณ...หิวใหม
ถ้าหิว นมสดดูดซึมได้ทันที ข้าวสวยก็เช่นกันกินได้ทันที
ถ้าไม่หิว เปลือกไข่ย่อยสลายช้ากินได้นานกว่า
ข้าวสารก็เหมือนกัน หิวเมื่อไหร่ก็ค่อยทยอยหุงกิน
หิวจัดๆ เฉือกกินข้าวสารเข้าไป
กว่าจะเม็ดข้าวจะฟูเปื่อยย่อย
ท้องอืด ตดจนแสบดาก ก็ยังไม่หายหิว
#การเปรียบเทียบระหว่างการใช้เปลือกไข่และนมสด
เป็นแหล่งแคลเซียมสำหรับพืชนั้น
มีข้อแตกต่างในด้านประสิทธิภาพและระยะเวลาในการดูดซึม
โดยสรุปได้ดังนี้:
---
### **1. การใช้เปลือกไข่**
- **แหล่งแคลเซียม**: เปลือกไข่ประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO₃) เป็นหลัก
- **กระบวนการปลดปล่อยแคลเซียม**: เปลือกไข่ต้องถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ในดินก่อนที่จะปลดปล่อยแคลเซียมในรูปแบบที่พืชนำไปใช้ได้
- **ระยะเวลาในการดูดซึม**:
- เปลือกไข่บดละเอียด: 2-4 สัปดาห์
- เปลือกไข่ชิ้นใหญ่: 6-12 เดือน
- **ประสิทธิภาพ**: เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการแคลเซียมในระยะยาว แต่กระบวนการปลดปล่อยแคลเซียมช้ากว่า
---
### **2. การใช้นมสด**
- **แหล่งแคลเซียม**: นมสดมีแคลเซียมในรูปแบบที่ละลายน้ำได้ง่าย (เช่น แคลเซียมไอออน)
- **กระบวนการปลดปล่อยแคลเซียม**: แคลเซียมในนมสดอยู่ในรูปแบบที่ #พืชนำไปใช้ได้ทันที ไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยสลาย
- **ระยะเวลาในการดูดซึม**: พืชสามารถดูดซึมแคลเซียมจากนมสดได้ภายใน **1-2 วัน**
- **ประสิทธิภาพ**: เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาการขาดแคลเซียมอย่างรวดเร็ว เช่น โรคปลายผลเน่าในมะเขือเทศ
### **4. งานวิจัยและวรรณกรรมอ้างอิง**
1. **การใช้เปลือกไข่เป็นแหล่งแคลเซียม**:
- งานวิจัยโดย Shaikh และคณะ (2018) พบว่าเปลือกไข่บดละเอียดสามารถเพิ่มแคลเซียมในดินและช่วยลดปัญหาการขาดแคลเซียมในพืชได้ แต่ต้องใช้เวลาในการย่อยสลาย
- อ้างอิง: Shaikh, S. M. R., & Nayeem, A. (2018). *Utilization of Eggshell as a Potential Source of Calcium for Plants*. Journal of Agricultural Science, 10(3), 45-52.
2. **การใช้นมสดเป็นแหล่งแคลเซียม**:
- งานวิจัยโดย Smith และคณะ (2017) พบว่านมสดสามารถเพิ่มระดับแคลเซียมในพืชได้อย่างรวดเร็ว และช่วยป้องกันโรคปลายผลเน่าในมะเขือเทศ
- อ้างอิง: Smith, J. R., & Brown, L. (2017). *The Effect of Milk as a Calcium Source on Tomato Plant Growth and Disease Prevention*. Horticulture Research, 5(2), 112-120.
---
### **สรุป**
- **นมสด** มีประสิทธิภาพสูงกว่าในแง่ของความเร็วในการดูดซึมแคลเซียม โดยพืชสามารถนำไปใช้ได้ภายใน 1-2 วัน
- **เปลือกไข่** เหมาะสำหรับการเสริมแคลเซียมในระยะยาว แต่ต้องใช้เวลาในการย่อยสลายและปลดปล่อยสารอาหาร
- การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์: หากต้องการแก้ไขปัญหาการขาดแคลเซียมอย่างรวดเร็ว ควรใช้นมสด
แต่หากต้องการเสริมแคลเซียมในระยะยาว เปลือกไข่เป็นตัวเลือกที่ดีและประหยัดกว่า
จะเถียงกันทำใมว่าอันใหนดีกว่าอันใหน
จะใส่เปลือกไข่ร่วมกับนม ทั้งสองอันเลย
มันจะทำให้จนลงเหรอ
ในเมื่อใส่แล้วดีขึ้น ผักสวยน่ากินขึ่น ขายได้มากขึ้น
หรือกินเอง ก็อร่อยมากขึ้น
ก็ใส่ไปสิครับ
นมดีกว่า หรือ เปลือกไข่ดีกว่า
ผมเห็นกลุ่มfbปลูกผักกลุ่มหนึ่งเขา เถียงกันยกใหญ่
สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านเยอะ
ผมขอสรุปให้ก่อนละกันว่ามันก็เหมือนข้าวสวยกับข้าวสาร
มันไม่ได้อยู่ที่ข้าวว่าอันใหนดีกว่ากันเพราะมันก็คือคาร์โบไฮเดรตเหมือนกันกินเข้าไปก็ไปย่อยเป็นน้ำตาลเหมือนกัน
มันต่างตรงที่ต้นไม้ของคุณ...หิวใหม
ถ้าหิว นมสดดูดซึมได้ทันที ข้าวสวยก็เช่นกันกินได้ทันที
ถ้าไม่หิว เปลือกไข่ย่อยสลายช้ากินได้นานกว่า
ข้าวสารก็เหมือนกัน หิวเมื่อไหร่ก็ค่อยทยอยหุงกิน
หิวจัดๆ เฉือกกินข้าวสารเข้าไป
กว่าจะเม็ดข้าวจะฟูเปื่อยย่อย
ท้องอืด ตดจนแสบดาก ก็ยังไม่หายหิว
#การเปรียบเทียบระหว่างการใช้เปลือกไข่และนมสด
เป็นแหล่งแคลเซียมสำหรับพืชนั้น
มีข้อแตกต่างในด้านประสิทธิภาพและระยะเวลาในการดูดซึม
โดยสรุปได้ดังนี้:
---
### **1. การใช้เปลือกไข่**
- **แหล่งแคลเซียม**: เปลือกไข่ประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO₃) เป็นหลัก
- **กระบวนการปลดปล่อยแคลเซียม**: เปลือกไข่ต้องถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ในดินก่อนที่จะปลดปล่อยแคลเซียมในรูปแบบที่พืชนำไปใช้ได้
- **ระยะเวลาในการดูดซึม**:
- เปลือกไข่บดละเอียด: 2-4 สัปดาห์
- เปลือกไข่ชิ้นใหญ่: 6-12 เดือน
- **ประสิทธิภาพ**: เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการแคลเซียมในระยะยาว แต่กระบวนการปลดปล่อยแคลเซียมช้ากว่า
---
### **2. การใช้นมสด**
- **แหล่งแคลเซียม**: นมสดมีแคลเซียมในรูปแบบที่ละลายน้ำได้ง่าย (เช่น แคลเซียมไอออน)
- **กระบวนการปลดปล่อยแคลเซียม**: แคลเซียมในนมสดอยู่ในรูปแบบที่ #พืชนำไปใช้ได้ทันที ไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยสลาย
- **ระยะเวลาในการดูดซึม**: พืชสามารถดูดซึมแคลเซียมจากนมสดได้ภายใน **1-2 วัน**
- **ประสิทธิภาพ**: เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาการขาดแคลเซียมอย่างรวดเร็ว เช่น โรคปลายผลเน่าในมะเขือเทศ
### **4. งานวิจัยและวรรณกรรมอ้างอิง**
1. **การใช้เปลือกไข่เป็นแหล่งแคลเซียม**:
- งานวิจัยโดย Shaikh และคณะ (2018) พบว่าเปลือกไข่บดละเอียดสามารถเพิ่มแคลเซียมในดินและช่วยลดปัญหาการขาดแคลเซียมในพืชได้ แต่ต้องใช้เวลาในการย่อยสลาย
- อ้างอิง: Shaikh, S. M. R., & Nayeem, A. (2018). *Utilization of Eggshell as a Potential Source of Calcium for Plants*. Journal of Agricultural Science, 10(3), 45-52.
2. **การใช้นมสดเป็นแหล่งแคลเซียม**:
- งานวิจัยโดย Smith และคณะ (2017) พบว่านมสดสามารถเพิ่มระดับแคลเซียมในพืชได้อย่างรวดเร็ว และช่วยป้องกันโรคปลายผลเน่าในมะเขือเทศ
- อ้างอิง: Smith, J. R., & Brown, L. (2017). *The Effect of Milk as a Calcium Source on Tomato Plant Growth and Disease Prevention*. Horticulture Research, 5(2), 112-120.
---
### **สรุป**
- **นมสด** มีประสิทธิภาพสูงกว่าในแง่ของความเร็วในการดูดซึมแคลเซียม โดยพืชสามารถนำไปใช้ได้ภายใน 1-2 วัน
- **เปลือกไข่** เหมาะสำหรับการเสริมแคลเซียมในระยะยาว แต่ต้องใช้เวลาในการย่อยสลายและปลดปล่อยสารอาหาร
- การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์: หากต้องการแก้ไขปัญหาการขาดแคลเซียมอย่างรวดเร็ว ควรใช้นมสด
แต่หากต้องการเสริมแคลเซียมในระยะยาว เปลือกไข่เป็นตัวเลือกที่ดีและประหยัดกว่า
จะเถียงกันทำใมว่าอันใหนดีกว่าอันใหน
จะใส่เปลือกไข่ร่วมกับนม ทั้งสองอันเลย
มันจะทำให้จนลงเหรอ
ในเมื่อใส่แล้วดีขึ้น ผักสวยน่ากินขึ่น ขายได้มากขึ้น
หรือกินเอง ก็อร่อยมากขึ้น
ก็ใส่ไปสิครับ
Copyright © 2023-2024 UFA7878.net All Rights Reserved. Sitemap