Please or Register to create posts and topics.

17 ข้อ เตือนสติเจ้าของที่อยากอยู่รอดในปีหน้า จากใจคนที่แก้เกมให้ธุรกิจ 8-9หลัก หลายสิบบริษัทฯ

1. ภาพรวมการเงินต้องชัด
ถ้าการเงินไม่แน่นอน เหมือนขับรถแล้วปิดตา ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จเค้ารู้ตัวเลขเป๊ะ ๆ ในทุกวัน หรืออย่างน้อยทุก 15 วัน สภาพคล่องเป็นเรื่องใหญ่ ธุรกิจที่ล้มไปหลายรายเพราะละเลยเรื่องนี้ คอยเช็กกระแสเงินสดให้สม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่กำไรในบัญชีเท่านั้น
ขั้นแรก ทำกำไรให้เห็นได้จริงๆทุกเดือน ตามหลัก คงค้าง ไม่ใช่เกณท์เงินสด แล้วทำให้ได้ทุก 15 วันเป็นอย่างต่ำ
อย่าฟังว่า บช คุณทำไม่ได้ ทำไม่ได้ก็ต้องหาแนวทาง จะอัพเกรดระบบบช จะจ้างคน จะให้ทีมงานแผนกอื่นๆช่วยกันเพื่อดึงให้ งบกำไรขาดทุนออกได้ ทำเหอะ ไม่งั้นมันก็ยิงแอดดันยอดกันไป มารู้ทีหลังอีกเดือนสองเดือนว่าไม่กำไรก็ชิบหายแล้ว
2. วิเคราะห์กำไรจากสินค้าแต่ละตัว
พยายามทำกำไรจากสินค้าทุกตัว ไม่ใช่ปล่อยให้บางตัวเป็นภาระ ธุรกิจที่ไปได้ดีเขารู้ว่าอะไรทำกำไร อะไรไม่ควรมี เก็บแค่สินค้าที่ทำกำไรจริง ๆ และหยุดเสียเวลากับตัวที่ไปไม่รอด
บาง บ พึ่งสินค้าตัวเดียวทำกำไรแบบมหาศาล มีสินค้าตัวอื่นปนๆเรื่อยๆ แต่ไม่เห็นภาพกำไรรายตัว พอมาเปิดดูยอดโอโห ยอดขายเยอะ น่าจะดีมากแน่ๆเลย แต่พอถามว่าแล้วตัวไหนกำไรสุด ตอบไม่ได้ ถ้าตอบไม่ได้แล้วจะวางแผนได้ยังไงว่าจะผลิตตัวไหน ยื้อตัวไหน เดินตัวไหนต่อ
จัดโปร a vs โปรสินค้า b แล้วเทียบได้ไหมว่ากำไรโปรไหนเยอะกว่า เทียบไม่ได้ แล้วจะดันตัวไหนต่อละครับพี่!
3. คนเก่งสำคัญกว่าคนค่าแรงถูก
ถ้าเลือกคนไม่ดี แทนที่จะช่วยงานได้กลับต้องมานั่งควบคุมอีกที ธุรกิจที่ไปได้ไกลเขาลงทุนกับคนที่มีฝีมือเพื่อไม่ต้องคอยคุมตลอดเวลา คนที่ต้องคอยให้คำสั่งทุกขั้นตอนทำให้เหนื่อยและประสิทธิภาพต่ำ คิดดี ๆ ว่าคนที่มีฝีมือมีประโยชน์มากกว่าไหม แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าก็ตาม
ยกตัวอย่างง่ายๆ โพสที่แล้วผมพูดถึงเอาทีมคนน้อยแต่อิน กับคนเยอะแต่ไม่อิน 99% เลือกอินหมด แต่ ณ วันนี้ พนักงานคุณอิน และเก่งจริงไหม คุณบอกให้เขาทำงานแล้วคุณปิดตาได้เลยหรือไม่ หรือต้องมานั่งตรวจนั่งเช็คตลอด
บางทีคุณอาจจะบอกว่าจ้างคนถูกมาสอนมาปั้นได้ดีกว่าพี่ คำถามคือ
0. คุณเก่งพอจะสอนใช่มั้ย
1. คุณมีเวลาสอนใช่ไหม
2. คุณสอนเป็นใช่ไหม
3. คุณตรวจงานและโค้ชชิ้งเป็นใช่ไหม
4. คุณพร้อมจะเสียเวลารอจนกว่าเขาจะเก่งใช่ไหม
5. คุณพร้อมจะยอมรับใช่ไหมว่าพอคุณเทรนให้เขาเก่งขึ้น คุณพร้อมจะเพิ่มเงินเดือน ขึ้นค่าต่ำแหน่ง เพื่อกันไม่ให้เขาลาออก
6. และถ้ามันลาออก คุณมั่นใจใช่ไหมว่าคุณมีคนสำรอง!!
ส่วนใหญ่ไม่มีคนสำรอง เก่งปุ้บ แปปเดียวลาออก ร้องไห้เบยยย
4. หน้าที่ต้องชัด คนต้องรู้ว่าใครทำอะไร
บริษัทที่ไปได้ดีจะมีความชัดเจนในเรื่องหน้าที่งานทุกคน ถ้าไม่ชัดเจนจะเกิดการทำงานซ้ำซ้อนหรือทับซ้อนกัน ทำให้เสียเวลา ต้องเขียนรายละเอียดหน้าที่ชัด ๆ ไม่งั้นจะมีปัญหาแน่นอน
ยิ่งทีมใหญ่ยิ่งต้องชัด ทีมเล็กคุณต้องยอมรับหน่อยว่า scope จะเพี้ยนๆบ้างๆ เกินๆบ้าง คุณต้องปรับความเข้าใจตรงนี้กับทีมงาน อาจจะต้องจ้าง outsource มาชัพพอททีมงานคุณบ้างเพื่อให้งานไม่โหลดจนเกินไป
แต่ถ้าทีมคุณใหญ่ นอกจากความชัดเจนแล้ว คุณต้อวควบคุมคุณภาพด้วย
5. รักษาลูกค้าและฟังฟีดแบคอย่างจริงจัง
ธุรกิจที่ดีจะใส่ใจลูกค้า ไม่ใช่แค่ขายแล้วหายไป ลูกค้าซื้อซ้ำคือกำไรที่แท้จริง ต้องมีการติดตามผลหลังการขาย และตั้งระบบรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าไว้
อย่าแค่คิดจะขายของกับลูกค้า จะปีใหม่แล้ว ลูกค้าก็อยากได้ของขวัญดีๆกันทั้งนั้น อย่าดูแลลูกค้าทุกคนเหมือนๆกัน คนที่จ่ายเยอะ คนที่มีโอกาสจะเป็นเจ้าใหญ่ คุณต้องดูแลคนละแบบ เช่นกัน คนที่บ่น คอมเพลนไปเรื่อยจนไร้สาระ ซื้อครั้งเดียวชิ้นเดียวราคาถูกๆ คุณก็ต้องเลือกฟังด้วยว่าจะฟังลูกค้าทุกคนมั้ย หรือจะฟังกลุ่มแฟนพันธ์แท้ของคุณจริงๆ
6. วิเคราะห์การตลาดและขายแบบจริงจัง
ธุรกิจที่ล้มเหลวเพราะทุ่มเงินไปกับการตลาดแบบไม่คุ้มค่า ธุรกิจที่ดีจะจับตัวเลข ROI ทุกแคมเปญเพื่อดูผลลัพธ์ ถ้าไม่รู้ว่าการตลาดที่ลงไปทำให้เกิดผลอะไร ควรหาคำตอบ ถ้าไม่งั้นงบการตลาดจะเป็นหลุมที่ดูดเงินออกไปเรื่อย ๆ
เอาเงินไปออกทีวี ตอบได้ไหมในทาง บช ว่าจะกระจาย costing ยังไงเพื่อวัน roi ชัดๆ เพราะคุณได้ทั้งยอดขายตอนไปออกและได้สื่อมาใช้ต่ออีกเพียบ
เอาไปลง billboard ทำ awareness แล้วพอจะวัดผลได้ไหม หรือคุณวางงบในการทำ mkt budget เท่าไหร่และอยู่ในกรอบแค่ไหนที่จะไม่ทำให้โครงสร้างราคาของคุณพัง
ไม่พอแล้วคุณเช็คได้ไหมว่า ลค ที่ซื้อ เขาตัดสินใจหรือใช้ส่วนหนึ่งจากการตัดสินใจจากแนวทางการทำการตลาดที่คุณทำอยู่
แบบ "อ้อ หนูเห็นบิลบอดเต็มเมืองเลยพี่ เลยตัดสินใจลอง" หรือ "หนูเห็นดาราที่หนูชอบใช้พี่หนูเลยลอง" "อ้อเห็นวาวตามร้านขายยาเยอะพี่ เภสัชก็แนะนำครับ" แบบนี้กี่คน แค่ไหนเยอะมั้ย จะได้รู้ว่าอะไร impact สุด
7. สร้างผู้นำ ลดการพึ่งพาตัวเจ้าของ
ธุรกิจที่ดีจะมีคนทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งเจ้าของทุกอย่าง การหาคนที่สามารถเป็นผู้นำในบางด้านได้จะช่วยลดการพึ่งพาตัวเจ้าของ คนที่ต้องการให้ทุกเรื่องมาถึงตัวเองคือการขัดขวางการเติบโตของธุรกิจ
ในองค์กรผม จะขนาดใหญ่ หรือ เล็ก ผมต้องมั่นใจว่า ผมไม่ใช่คนที่เก่งที่สุดในแต่ละเรื่อง เพราะถ้าผมจ้างคนมาเพียบแล้วผมยังเก่งที่สุด แปลว่าผมแค่จ้างคนมาเป็น"แขนขา"แต่สุดท้ายก็วิ่งกลับมาให้ผมตัดสินใจอยู่ดี ผมยินดีที่จะจ้างคนที่เก่งกว่ามาช่วยงาน
เดี้ยวนี้เวลาไปประชุมหลายๆครั้ง ผมให้ทีมงานผมโชโล่แทน ผมนั่งเฉยๆ แต่คนเหล่านี้ผมส่งเรียนเยอะจนเขาไปไกลกว่าผมแล้ว สิ่งที่เขาทำและพูดมันไกลกว่าที่ผมคิดแล้ว
ผมมักจะแค่นั่งยิ้มเพราะภูมิใจ และพูดเสริมในมุมที่เขาขาด
พนักงานผมต้องเป็นเหมือนมีด คือแทงอะไรขาดหมด
ผมเป็นแค่ค้อนคอยตอกเสริมให้มันลงลึกขึ้นแค่นั้น
8. เอกสารขั้นตอนงานต้องมีเป็นระบบ
ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจะมีขั้นตอนงานเป็นเอกสาร ไม่ใช่ให้พนักงานจำกันเอง เป็นวิธีที่ช่วยให้ไม่ต้องพึ่งใครคนใดคนหนึ่งมากเกินไป ถ้าคนสำคัญไม่อยู่ งานยังไปต่อได้ ถ้าองค์กรคุณเริ่มใหญ่แล้ว ถ้าองค์กรเล็ก ผมแนะนำสร้าง culture ดีๆเพื่อให้คนที่อยู่ได้พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ
หลายๆธุรกิจเดี้ยวนี้ที่ผมดู เริ่มมีการลงเอกสาร ทำ sop qp wi ทำ workflow การทำงาน มีการออดิทการทำงานว่าตามระบบมั้ย
และแน่นอน ผมก็ปล่อยให้ทีมงานผมทำไปเพราะผมรู้ตามประสบการณ์แต่ไม่ได้เป็นแบบจริงจัง เช่นเรื่อง iso9001 gmp haccp ในการวางระบบเอกสารควบคุมคุณภาพ
9. พัฒนาคนให้เก่งขึ้น
ธุรกิจที่เติบโตได้ดีจะไม่หยุดการพัฒนาคน จะมีการจัดอบรมหรือพัฒนาทักษะให้พนักงานอยู่เสมอ ไม่ใช่เรื่องเสริม แต่เป็นการลงทุนที่ส่งผลดีในระยะยาว
พนักงานจะเป็นค่าใช้จ่ายทันทีถ้าคุณจ้างคนที่ไม่คู่ควรกับ output มาทำงาน
พนักงานจะเป็นการลงทุนทันที ถ้าคุณจ้างคนที่มีความสามารถ เปิดให้เขาแสดงฝีมือ สนับสนุนไอเดีย และทำให้เขาเก่งขึ้น
10. ควบคุมคุณภาพเป็นหลัก
บางครั้งการลดต้นทุนจะทำให้คุณภาพลดลง แต่ต้องไม่ให้สินค้าหรือบริการที่เสนอออกมาแย่ ธุรกิจที่ไม่สนใจคุณภาพจะเจอลูกค้าที่ไม่กลับมาซื้ออีก การควบคุมคุณภาพแแบบจริงจับจะช่วยให้ลูกค้าแฮปปี้และกลับมาซื้อซ้ำ
อีกอย่างอย่าเปิดตัวแรงมาก แต่ให้เน้นผลลัพท์ที่เห็นได้ทันทีในระยะสั้น เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื่อต่อ สินค้าระยะยาวที่ต้องใช้นานๆกว่าจะเห็นผลอาจจะต้องทั้งกล่อมทั้งให้ความหวังและความตั้งใจสักหน่อย
อย่าลืมว่า ลค ส่วนใหญ่ใจร้อน อะไรที่ต้องใช้ทุกวันหกเดือน สามเดือน ทำใจไว้เลยว่า แม่งไม่ใช้หรือไม่กินทุกวันหรอก ทีนี้ถ้ามันไม่ทำทุกวันหรือกินทุกวัน มันก็ไม่ได้ผลลัพท์ แล้วถ้าคุณขาย set ใหญ่ๆตั้งแต่แรก บอกเลย ผมยังคิดเลยว่า "กูโดนหลอกแล้วจ้าาา"
แต่โอเคถ้าคุณอยู่ในสายโกยก็อีกเรื่อง
11. ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ธุรกิจที่ไปได้ดีจะใช้เทคโนโลยีช่วยงาน เทคโนโลยีช่วยลดงานซ้ำ ๆ ช่วยงานพนักงานให้ไปทำสิ่งที่มีมูลค่ามากขึ้น
มี สองสาม บ. ผมเข้าไปช่วยโดยเข้าไปทำให้สิ่งที่มองไม่เห็น ได้เห็นและ มีทีมงานคู่บุญเข้าไปช่วยแก้ไขจัดการให้ระบบเขาทำงานได้ดีและไวขึ้น ลดเวลาการมานั่งก็อปสูตรวางสูตรมหาศาล ทำให้เห็นภาพรวมและภาพย่อยภายในองค์กรที่ชัดขึ้น และมีเวลาเอาไปทำงานอื่นๆที่ควรทำเพิ่มขึ้น
12. โฟกัสลูกค้ากลุ่มที่ทำกำไรได้จริง ๆ
ธุรกิจที่โตดีจะโฟกัสลูกค้ากลุ่มที่มีกำไร ไม่ใช่ทำตลาดไปทั่ว ต้องหาลูกค้าหลักและใช้ทรัพยากรให้ถูกที่ การแบ่งกลุ่มลูกค้าไม่ใช่เรื่องเล็ก มันคือการทำให้ธุรกิจไปถึงเป้าหมาย อย่าดูแลทุกคนเท่าๆกัน แต่ให้ดูแลคนที่เขารักคุณมากกว่าคนที่นานๆจะมาที หรือมทครั้งเดียวแล้วไป
คุณตอบได้มั้ยละว่า ปีนั้ คุณมีลูกค้าที่ซื้อ1 ครั้งกี่คน 2 ครั้งกี่คน 3 ครั้งกี่คน
ยอดสะสม <1000 กี่คน 1000-5000 กี่คน 5000-10,000 กี่คน และ 10,000+ กี่คน
ลูกค้าผมทุกคนตอบได้ เพราะมันสำคัญ
13. ดูแลคนที่ขายของให้ (affliate/ตัวแทน/ร้านค้าต่างๆ) และซัพพลายเออร์
ธุรกิจที่ดีจะให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์และคนที่เอาไปขายต่อ ทบทวนสัญญาเงื่อนไข ไม่ให้ผู้ขายมาเป็นตัวปัญหา ควรเจรจาต่อรองใหม่ถ้าจำเป็น
อีกอย่างคุณก็ควรระวังให้ดี บางเจ้าทำซื้อของไป แต่จริงๆใน contract สัญญาแม่งบอกว่าคืนของได้จ้า
ดีใจตอนแรก ชิบหายทีหลัง มีเยอะ
บางเจ้าขายให้เราแต่โอนเงินช้า หน่วงๆไปเรื่อย
โรงงานบางโรง แรกๆดีๆหลังๆใส่ไข่ ตอกอะไรมั่วไปหมด ผสมสารห่วยๆเพื่อลดต้นทุนแบบไม่ได้บอกเรา ถ้าเราไม่ส่ง lab กลาง test ทุก lot รับรองเพี้ยนหมดจ้าาาาาาา
ปล. อย่าลืมไปทำ supplier audit นะ
ปล2 อย่ามี คนขาย หรือคนผลิตแค่เจ้าเดียว เวลาชิบหายละ ชิบหายจริงนะ
14. วางแผนการจัดการความเสี่ยง
ต้องวางแผนรับมือกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปัญหาซัพพลายเชน การขาดพนักงาน คนที่พร้อมรับมือกับปัญหาย่อมลดความเสียหายลงได้มากกว่าคนที่รอให้ปัญหามาก่อนแล้วค่อยคิดแก้ไข
บางเจ้าช่วงนี้ผมไม่ได้คุยอะไรเลย คุยแค่ว่าปีหน้าจะต้องเก็บเงินสำรองเท่าไหร่ เพราะเงินสดมันไม่พอกับค่าฉุกเฉิน เรียกว่าทำไปเพื่อรับความพังพินาจที่อาจจะเกิดขึ้น เก็บแยก บช ไว้ มีทั้งเงินค่ายืนระยะ ค่าเพื่อชัพโอนเงินช้า บลาบลา พอมี ก็เอาไปเก็บหรือเอาไปลงทุนความเสี่ยงต่ำรอไว้ สบายใจละ
15. ดูแลบรรยากาศการทำงานและรักษาคนเก่ง
ธุรกิจที่ไปได้ดีจะใส่ใจบรรยากาศในที่ทำงาน ที่มีปัญหามักจะปล่อยให้พนักงานเบื่อหรือไม่มีความสุข ซึ่งทำให้เสียคนดีไป รักษาคนที่ดีไว้ มีการสำรวจความพึงพอใจของพนักงานทุกไตรมาส หรือคุยบ่อยๆ
เข้าใจว่าหลายๆครั้งเราอาจจะมี ทีมที่ไม่ได้เจอหน้ากันบ่อยเพราะทำงานที่บ้าน แต่มาเจอกันบ้างคุยกันบ้างก็สำคัญ และอย่าลืมสนับสนุนแบบ ส่งเขาไปเรียน หรือ ส่งเบียรไปที่บ้านบ่อยๆ
16. ทบทวนค่าใช้จ่ายและต้นทุนแบบไม่อคติ
ธุรกิจที่ดีจะทบทวนค่าใช้จ่ายเป็นประจำ ไม่ใช่ปล่อยให้มีการเสียเงินซ้ำซาก ค่าใช้จ่ายทุกอย่างต้องตอบโจทย์การทำงานและกลยุทธ์ ใดที่ไม่จำเป็นให้ตัดออกไป
เงินที่เจ้าของใช้เล่น เวลาคำนวนกำไรจริงๆ ตัดออก อย่าเอาไปรวม คือผมไม่ได้บอกให้คุณแยก บช กันแบบจ่ายภาษีเต็มๆถูกต้องนะ ผมเข้าใจว่าหลายๆคนเลี่ยงภาษีตามกฎหมาย ผมให้คุณแยกคชจ เวลาคุณมาวัด performance บ. แบบ เจ้าของไปเที่ยวเล่น ไม่ได้ไปทำงาน เอาลงงบส่งสรรมได้ แต่อย่าเอาคชจนี้ไปตอนประเมิน บ. มันไม่แฟร์กับพนักงาน มันไม่แฟร์กับโบนัสที่เขาจะได้ โอเชนะ!
17. บทบาทของเจ้าของควรอยู่ในเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่การจัดการรายวัน
ธุรกิจที่โตดีเจ้าของจะใช้เวลากับการวางแผนและวิเคราะห์ ไม่ใช่ทำทุกเรื่องเอง ถ้าเจ้าของอยู่กับงานเล็ก ๆ หมด อาจทำให้ธุรกิจขาดทิศทางได้ ควรแบ่งงานให้คนอื่นทำแล้วโฟกัสไปที่เรื่องใหญ่ ๆ แทน
โอเช ถ้าองกรคุณเล็กก็ไม่ติด แต่ถ้าวันนี้คุณมีคน สี่สิบห้าสิบคนและคุณยังอยู่ในหมวดการทำอะไรเดิมๆ ทำแต่ของเดิมๆให้กับสินค้าเดิมๆ มันอาจจะไม่ใช่แล้ว
แต่ผมมองว่าถ้าคุณไปทำอะไรใหม่ๆ ลองอะไรใหม่ๆ อันนี้พอได้อยู่ เพราะการหาโอกาสใหม่ๆ หรือ ทดลองอะไรใหม่ๆ เจ้าของมันจะทำไวกว่า และพนักงานที่จะมาทำตรงนี้ต้องเก่งจัดและอินมากพอควร
เพราะงั้นถ้าคนเยอะ แต่คุณยังต้องลงไปทำอะไรเองเยอะๆ เช่นพวกงาน operation แทนที่จะเป็น งาน ตรวจ หรืองาน บริหาร ผมว่าถึงเวลาที่คุณจะต้องเริ่มทำพวก workflow การตั้งเป้า และจ้างคนเก่งมาทำงานแทนคนห่วยแล้วนะครัชช

 Copyright © 2023-2024 UFA7878.net All Rights Reserved. Sitemap

เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ฝาก-ถอน
ติดต่อเรา