Please or Register to create posts and topics.

[Spoil] HunterXHunter 402 - สาส์น

HunterXHunter 402 - สาส์น


ห้อง 1003
"องค์ชายโจไรครับ หากท่าน องค์ชายซเบปป้า และองค์ชายวาเบิล เหลือรอดเป็น 3 คนสุดท้าย ทั้งคู่จะขอถอนตัวไปเองครับ"

โจไรได้รับรายงานเรื่องที่ซเบปป้าและวาเบิลทำสัญญาสงบศึกกันจนกว่าจะถึงช่วงท้ายของของการชิงบัลลังก์

"ถอนตัวงั้นรึ... สำหรับวาเบิลก็เข้าใจได้ แต่ซเบปป้านี่สิ... มีหลักฐานสำหรับข้อตกลงนี้มั้ย?" โจไรถามกับบอดี้การ์ดที่มารายงาน

"มีครับ เพราะอย่างนั้น องค์ชายวาเบิลจึงขอยืดเวลายืมตัวฮาชิโตะและซากาตะเพื่อไปเป็นพยานครับ" บอดี้การ์ดที่ชื่อเทนฟุโทรี่ตอบกลับ


โจไรยื่นเหรียญจากสัตว์เน็นให้กับเทนฟุโทรี่
"ดี งั้นเอานี่ไปเป็นรางวัล"
"นายเคยได้มันไปแล้วสินะ เก็บมันไว้ดีๆ ล่ะ แล้วจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่"

("การถอนตัว..." จะทำได้จริงในศึกนี้งั้นหรือ? แต่เอาเถอะ ถือว่าเป้นผลดีกับเราล่ะนะ)
(แล้วเหรียญพวกนี้ ผ่านไป 10 วันแล้วมันก็ไม่เห็นจะส่งผลอะไร มันทำงานยังไงกันแน่??)


=========


ที่ห้อง 1005
ซเบปป้ากำลังทวนเงื่อนไขข้อตกลงกับมาออร์และลอนกิ
"ตกลงว่าคุราปิก้ารับข้อเสนอที่จะร่วมมือกับเราแล้วสินะ"


มาออร์: ครับ เงื่อนไขคือเค้าขอนำมเหสีโออิโตะและองค์ชายมาที่ห้อง 1005 นี้ด้วยที่ รวมถึงบอดี้การ์ดขององค์ชายสามจะเข้ามาเป็นพยาน

ซเบปป้า: งั้นก็ดี

(เซอนีโดนีชไม่ยอมมางานเลี้ยงเมื่อวันอาทิตย์ หมายความว่ามันมีตัวเลือกที่ดีกว่าการร่วมมือกับเรา)
(ในตอนนี้ ทหารของเบนจามินกำลังหมายหัวเรา จะมัวเสียเวลาไม่ได้ ถ้าหาทางเบนความสนใจมันไปที่โจไรได้ก็ดี)


ระหว่างนั้นเอง สัตว์เน็นรูปร่างคล้ายกบของซเบปป้าก็ปรากฏตัวขึ้นมา


การพูดคุยทั้งหมดล้วนอยู่ในสายตาของริฮัน ทหารของเบนจามินที่ส่งมาเพื่อเก็บสัตว์เน็นของซเบปป้า

"สัตว์เน็นปรากฏหลังทำข้อสรุปว่าจะร่วมมือ... หมายความว่าเป็นเน็นที่ทำงานด้วยเงื่อนไขสินะ..." ริฮันเริ่มวิเคราะห์ความสามารถของศัตรู


=========


ตัดมาที่บัลซามิลโก้ (ทหารที่ปรึกษาของเบจามิน) ที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน เขาได้ก้มลงหยิบกล่องบางอย่างที่เขียนว่า TSK-17 ที่ซ่อนไว้ในแผ่นยางใต้รองเท้าบูท ภายในกล่องมีหลอดของสารบางอย่างเอาไว้สามหลอด

บัลซามิลโก้ได้ทดลองกดปุ่มบางอย่างที่ซ่อนไว้ในมือ ได้มีลมเบาๆ พ่นออกมาจากจากปลายรองเท้าบูทนั้น หลังจากนั้นบัลซามิลโก้ก็ได้หยิบหลอดของสารเคมีขึ้นมาหลอด และบรรจุมันลงไปที่อีกข้างของรองเท้า พร้อมตรวจสอบสวิตช์ที่ฝ่ามืออีกที


"อาวุธสังหารของประเทศเรา มีข้อบกพร่องจึงยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนา"
"แต่ถ้าใช้งานดีๆ มันจะเป็นการลอบสังหารที่สมบูรณ์แบบ ผู้ที่โดนจะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคติดต่อจนต้องถูกกักตัว ทำให้เชื้อไม่สามารถแพร่ต่อได้"

"เชื้อไวรัสนั้นอ่อนแอจนทำให้อยู่ในอากาศได้แค่ไม่ถึง 30 วิ แต่ในระหว่างนั้น ผู้ที่สูดมันเข้าไปจะติดเชื้อและทำให้อวัยวะภายในล้มเหลวภายในครึ่งวัน !!"
"แถมมันยังช่วยเร่งให้ร่างกายเน่าเปื่อย จนทำให้การชันสูตรหาสาเหตุเป็นไปอย่างยากลำบาก"

"ในห้องที่อากาศไม่ถ่ายเท ระยะหวังผล 100% นั้นใกล้มาก ที่มันไม่ถูกนำไปใช้ก็เพราะเหตุนี้"


"แต่สำหรับงานนี้ มันเหมาะมาก"

"ด้วยสิ่งนี้... ฮาลเคนเบิร์กจะต้องถูกกำจัด !!"



=========



ห้อง 1004 วันที่ 11 หลังจากการเดินทาง เวลา 8.00 น.


เซอรีโดนิชกำลังวิ่งบนลู่วิ่งอย่างสบายใจพร้อมกับกดเกมเล่นไปพลาง

"ได้เท่าไหร่แล้ว" เซอรีชถามกับซาลคอฟที่เป็นคนจับเวลา

ซาลึอฟ: 9.67!! ครับ

"เฮ้อ กว่าจะได้ต่ำกว่า 10 วินาที แต่ก็ดูท่าจะได้มากกว่านี้อีก" เซอรีชบ่นพร้อมกับกดเกมไปด้วย


...


(กว่าจะ...?)

(ชั้นใช้เซ็ตสึได้มาตั้งแต่เกิดก็จริง แต่กว่าจะถึงขั้นนี้ได้ก็ต้องฝึกเกือบปี... มันมีสิ่งที่เรียกว่ากำแพง 10 วิ อยู่)

(ครึ่งปีสำหรับเรา วันเดียวสำหรับหมอนี่... ปีศาจชัดๆ)
(เทต้าพูดถูก นิสัยของหมอนี่คงไม่ลังเลที่จะใช้เน็นเพื่อสนองตัณหาของตัวเองแน่... เราต้องทำอะไรสักอย่าง)

ซาลคอฟคิดเมื่อเห็นพัฒนาการที่รวดเร็วของเซอรีโดนีช

(ตามที่เทต้าเล่า เซอรีชใช้ความสามารถอะไรบางอย่างตอนอยู่ในสภาพเซ็ตสึ เล่นแหกกฏเกณท์แบบนี้มันเกินกว่าสายพิเศษทั่วไปแล้ว)
(ถ้าให้คิด สัตว์เน็นตัวใหม่ของมันจะสะสมออร่าเข้าไปแล้วสั่งใช้งานด้วยเซ็ตสึ)

(แต่เทต้าก็โดนการโจมตีของมันครอบงำอยู่ จะให้เชื่อสนิทเลยก็ยาก... ถ้ายังไม่เห็นอะไรด้วยตาตัวเอง ก็ไม่กล้าลงมือซี้ซั้วล่ะนะ)


...


ระหว่างที่ซาลคอฟจับเวลาวิ่งไปพลางวิเคราะห์ไป วาเลนต์ หัวหน้าบอดี้การ์ดของเซอรีโดนีชก็เข้ามารายงานเรื่องที่ไปเชื้อเชิญเซ็นริตสึมาตามคำสั่ง

"องค์ชายครับ เกี่ยวกับฮันเตอร์ที่ชื่อเซ็นริตสึ"
"ดูเหมือนกระทรวงยุติธรรมจะยังสงสัยเธอ จึงได้ยืดเวลาคุมตัวเธอออกไปครับ"
"ท่านเบนจามินเองก็ดูเหมือนจะสนใจและส่งทหารไปจับตาดูเธอเช่นกัน" วาเลนต์รายงาน


"อย่าให้ไอ้บ้านั่นได้ตัวเธอไป เข้าหาเธอเรื่อยๆ แล้วดูว่าเป้าหมายเธออะไร" เซอรีชสั่ง



...


(คงสภาพเซ็ตสึ วิ่ง คุยงาน แล้วก็เล่นเกมไปด้วย มีแค่คนที่ฝึกมาเป็นสิบปีเท่านั้นที่จะทำได้ แค่เห็นก็รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าขึ้นเรื่อยๆ เทต้า เธอนี่สุดยอดเลยนะ...)

ซาลคอฟคิดทิ้งท้ายพร้อมกับเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมา



=========





ที่ชั้น 2 ห้องคุมขังของเซ็นริตสึ คะโจ(สัตว์เน็น) ได้เข้ามาโชว์รูปฟูเก็ตสึที่หันหลังให้อยู่ บนหลังมีรอยโดนแมลงกัดแดงขึ้นชัด

คะโจ เซ็นริตสึ และไคซารุ (เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมที่ทำหน้าที่คุมตัวเซ็นริตสึและฟูเก็ตสึในข้อหาพยายามหลบหนี แต่ก็แอบช่วยเหลืออย่างลับๆ) ได้รวมหัวกันปรึกษาวางแผน

เซ็นริตสึกังวลว่ามันจะเป็นรอยเข็มฉีดยา ทำให้คะโจรีบค้านว่าเธอก็อยู่กับฟูเก็ตสึตลอดช่วงที่โดนกักตัวและก่อนหน้านี้มันยังไม่มีรอย เซ็นริตสึจึงบอกต่อว่าคงเป็นร่องรอยที่เกิดจากการโจมตีด้วยเน็น

"ผู้ใช้เน็นบางคนมีเงื่อนไขที่ต้องใช้เพื่อโจมตี เป็นไปได้ว่าเธอจะไปติดกับดักบางอย่างเข้า!?"


คะโจคิดถึงเรื่องเมื่อวานที่ฟูเก็ตสึบอกว่าสามารถเรียกประตูไปไหนก็ได้ได้มากกว่าวันละครั้ง (จากที่ปกติใช้ได้แค่วันละครั้ง) แล้วเล่าให้เซ็นริตสึฟัง เซ็นริตสึอยากจะให้ฟูเก็ตสึใช้ความสามารถเพื่อตรวจสอบดู แต่คะโจรีบค้านว่าถ้าเป็นกับดักของศัตรูก็ควรจะห้ามไม่ให้ใช้มากกว่า แต่จากท่าทางของฟูเก็ตสึในตอนนี้ เธอน่าจะ "เสพติด" การใช้มันไปแล้ว


"จะบอกว่ามันทำงานเหมือนยาเสพติดหรอ? ต่ำช้านัก!!" คะโจกำหมัดพูด



เซ็นริตสึ: จากท่าทางที่เปลี่ยนไปของเธอ มันทำให้คิดแบบนั้น

"ตอนแรกชั้นคิดว่ามันเป็นฝีมือของพวกองค์ชายที่ติดต่อมาขอพบ แต่ดูเหมือนไม่ใช่!!"
"รูปแบบโจมตีไม่เลือกเป้าหมายที่โจมตีทุกคนที่เข้ามาติดกับ... เราต้องรีบหยุดผู้ใช้ แต่ว่าจะให้หาตัวศัตรูโดยไม่มีเบาะแสเลยมันก็......"





"เดี๋ยวก่อน ชั้นคิดขึ้นได้คนนึง" คะโจพูดขึ้น




คะโจบอกว่า องค์ชายลำดับ 7 ลูซูรูส มีเส้นสายกับมาเฟียและใช้ยาเสพติด เป็นไปได้ว่ามันอาจสร้างอิทธิพลให้กับสัตว์เน็นของเค้า

แต่เซ็นริตสึแย้งว่า ถ้าอีกฝ่ายเป็นถึงองค์ชาย การจะเข้าไปหยุดยั้งแทบเป็นไปไม่ได้เลย...



คะโจบอกว่าเธอมีแผน


...


คะโจ: ฟูเก็ตสึลองใช้ประตูของเธอมาแล้วหลายๆ แบบ แต่บนเรือนี้น่าจะมีเขตแดนบางอย่างป้องกันอยู่ทำให้หลบหนีหรือเปิดประตูไปข้างนอกออกไปไม่ได้

นั่นหมายความว่า เธอสามารถเปิดประตูไปที่เก็บเรือชูชีพได้


แต่ว่ามีอย่างนึงที่ยังไม่ได้ทดลอง นั่นคือการพาคนอื่นเข้าประตู

"ประตูจะปิดทันทีที่ฟูเก็ตสึเข้าไป" ดังนั้นถ้าให้คนอื่นเข้าไปก่อนก็น่าจะได้ มันเป็นกฏของเกมที่เราเล่นกันตอนเด็กๆ แต่เพื่อความชัวร์ ชั้นอยากให้ทดลองกับเธอก่อนนะ เซ็นริตสึ


...


เซ็นริตสึขัดขึ้นเล็กน้อย บอกว่าเธอต้องเล่นฟรุ๊ตไปด้วยเพื่อทำให้ลูซูรูสหมดสติ แต่ระหว่างนั้นจะต้องมีคนช่วยแบกลูซูรุสเข้าประตู คะโจเลยบอกว่าให้หาวิธีวางยาสลบ แต่ไคซารุแย้งว่าควรใช้วิธีที่ไม่เหลือหลักฐานดีกว่า

ไคซารุเสนอตัวว่าจะเป็นคนแบกลูซูรุสเอง พวกบอดี้การ์ดของลูซูรุสพอได้สติคงอ้างว่าหมดสติเพราะเสียงเพลง แต่ชั้นเชื่อว่าถ้าตรวจเลือดพวกนั้นคงเจอสารเสพติดที่แน่ เรื่องมันก็จะกลายเป็นว่า...

หลังจากเสพติดยาเกินขนาด องค์ชายลำดับ 7 ก็ได้วางแผนหลบหนีออกจากเรือ และหัวใจวายตายไป


...


เซ็นริตสึบอกว่าเข้าท่า แต่ว่าแผนนี้ติดปัญหาใหญ่อย่างนึง คือฟูเก็ตสึจะต้องเคยไปที่ปลายทางเสียก่อนเพื่อที่จะใช้ประตู ดังนั้นฟูเก็ตสึไม่มีทางที่จะเปิดประตูเพื่อเข้าไปห้องของลูซูรูสได้

ไคซารุออกไอเดียบ้าง ว่าจะสร้างเรื่องให้ฟูเก็ตสึได้เข้าพบกับองค์ชายทุกพระองค์
คะโจเลยถามว่าเป้าหมายของเราคือลูซูรูสคนเดียวไม่ใช่รึไง แต่ไคซารุบอกว่าถ้าได้เข้าพบทุกคนเลยความน่าสงสัยจะน้อยกว่า ยิ่งกว่านั้นควรขยายขอบเขตที่ฟูเก็ตสึจะใช้ประตูไปห้องของคนอื่นๆ ได้ด้วย

คะโจฟังแล้วก็เสนอไอเดียว่า จะเขียนจดหมายลาตายของตน เพื่อให้ฟูเก็ตสึนำไปส่งมอบให้กับองค์ชายครอื่นถึงในห้อง แต่ว่าก็กังวลว่าอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบ ยิ่งลูซูรูสที่น่าจะมีของผิดกฏหมายอยู่ด้วยยิ่งไม่น่าจะอยากให้คนของกระทรวงยุติธรรมมาเห็น


ไคซารุ: การเจรจาปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเอง ถ้าช่วยไม่ได้ก็คงต้องใช้ข้ออ้างเข้าตรวจค้นห้อง



ทั้งสามคนมองหน้ากันแล้วพยักหน้าว่าตกลงกับแผนการนี้


...


เซ็นริตสึหันไปถามไคซารุอีกที่ว่าแน่ใจแล้วหรือ ถ้าลงมือไปมากกว่านี้เค้าจะถอนตัวไม่ได้แล้วนะ


ไคซารุ: ผมยืนยันคำเดิม ไม่ใช่แค่ความรู้สึกต่อคุณ
ผมสนับสนุนองค์ชายฟูเก็ตสึเพราะมั่นใจว่าเธอจะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ระบอบได้ ยิ่งถ้าเธอได้อยู่กับองค์ชายคะโจที่กล้าต่อต้านคำสั่งของมเหสี

ผมไม่ได้มาอยู่ในกระทรวงยุติธรรมเพื่อหลับหูหลับตาทำตามกฏ แต่ผมเข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น ต่อให้มือนี้ต้องแปดเปื้อนหรือโลกใบใหม่จะไม่ต้องการผมก้ตาม...



เซ็นริตสึไม่ได้ฟังแค่คำพูดของไคซารุ แต่เธอกำลังฟังเสียงจากหัวใจไปด้วย


(เสียงหัวใจเค้าไม่เปลี่ยนไปกับอะไรเลย ถ้าหัวใจหวั่นไหวบ้าง เรายังจะรู้ได้ว่าเค้าเป็นศัตรูหรือไม่)
(แต่ในตอนนี้ เราต้องพึ่งเค้า หรือคนที่ควบคุมเค้าอยู่)

(ดังนั้นเราต้องรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ เพื่อองค์ชายฟูเก็ตสึ)



=========



ต่อจากนั้นไม่นาน ทั้งสามได้ลงมือทันที

ไคซารุได้เดินนำฟูเก็ตสึและเจ้าหน้าที่กระทรวงอีกหลายคนขึ้นไปยังชั้น 1 และตรงเข้าไปหาทหารที่ดูแลทางเข้าทันที

สภาพของฟูเก็ตสึนั้นดูท่าทางซูบผอมและอิดโรยเป็นอย่างมาก


=========


ไคซารุ: เราต้องการส่งมอบ "สาส์นก่อนตาย" ขององค์ชายคะโจให้กับองค์ชายเบนจามิน

ก่อนสิ้นพระชนม์ ท่านคะโจได้เขียนจดหมายเอาไว้ และท่านหวังว่าจะได้ส่งมอบมันให้กับมือขององค์ชายทุกพระองค์

พวกเรา กระทรวงยุติธรรมได้ตรวจสอบจดหมายว่าไม่มีวัตถุอันตราย และยืนยันความปลอดภัย รวมถึงได้ขออนุญาตจากองค์ชายฟูเก็ตสึให้ช่วยส่งมอบจดหมายไว้แล้ว





"ส่งมาสิ เดี๋ยวชั้นเอาไปมอบให้เอง"
บุทช์ ทหารของเบนจามินที่กำลังเข้าเวรอยู่ยื่นมือเข้าไปรับจดหมาย แต่ไคซารุกลับไม่ให้

"จดหมายนี้มีข้อมูลของศึกชิงบัลลังก์ หากไม่ได้ส่งมอบให้ด้วยมือมันก็จะเสียความน่าเชื่อถือ ได้โปรดรายงานให้องค์ชายดูก่อน"




บุทช์ได้ต่อสายไปถึงเบนจามิน และได้รับอนุญาตให้เปิดทางแก่ไคซารุและฟูเก็ตสึ







เมื่อฟูเก็ตสึได้เข้าเฝ้าเบนจามิน เธอกล่าวทักทายพี่ชายต่างมารดาเล็กน้อย
เบนจามินเห็นฟูเก็ตสึก็รู้โดยทันที ว่าเธอกำลังตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ และมันยังเป็นแค่การเริ่มต้น

เมื่อฟูเก็ตสึเข้าไปมอบจดหมาย สัตว์เน็นของเบนจามินคำรามขึ้นมาจนทำให้วิญญาณร้ายที่รายล้อมตัวฟูเก็ตสึแตกสลายไป


เบนจามินคิด
"ถูกขจัดไปแล้วสินะ แต่ก็แค่ชั่วคราว คงเป็นเพียงคำสาปชั้นต่ำที่คอยฉุดรั้งร่างกายและจิตใจ เรื่องนี้คงไม่น่าจะใช่แผนหรือฝีมือของสัตว์เน็น คงเป็นเพราะสภาพจิตของเธอที่เสียพี่สาว หากเป็นแบบนี้ต่อไปก็คงอยู่ได้ไม่ถึงสิบวัน"


เบนจามินรับจดหมายและถามไคซารุว่าจะให้เปิดอ่านเลยมั้ย
ไคซารุยินดี และบอกว่าหากมีข้อมูลที่ระคายเคืองจะได้รับรู้ในฐานะกระทรวงยุติธรรมได้

 

​Credit : FB > Aya+EVE

 Copyright © 2023-2024 UFA7878.net All Rights Reserved. Sitemap

เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ฝาก-ถอน
ติดต่อเรา