Quote from ufabet on พฤศจิกายน 12, 2024, 9:19 am

​​

เริ่มต้นภายในห้อง 1003

​

"เป็นไปได้มากครับ ที่เหรียญเปลี่ยนเป็น [10] หลังจากครบ 10 วัน"

"ปกติแล้วการแปรสภาพจะมีจำนวนจำกัดเพื่อให้คงสภาพวัตถุเอาไว้ได้ แต่ถ้าแบ่งภาระไปให้กับ "คนอื่น" การแปรสภาพจำนวนมากก็สามารถเป็นไปได้"

​

"เหรียญอาจเปลี่ยนคุณสมบัติไปตามผู้ถือครอง ดังนั้นผมว่าเราควรตรวจสอบดูก่อน ว่าเหรียญที่องค์ชายมอบให้คนอื่นไปกับเหรียญที่เก็บไว้เองมีความแตกต่างกันมั้ย"

​

คุราปิก้าสรุปความคิดเห็นออกมา หลังจากได้ฟังเรื่องราวของ "เหรียญ" จากโจไร

​

เมื่อได้ยินดังนั้น ทัฟโทรี่ หนึ่งในบอดี้การ์ดของโจไรจึงรีบหยิบเหรียญที่ตนเคยได้รับมาพลิกดู

"จริงด้วยครับองค์ชาย เหรียญที่ผมได้หน้าตาไม่เหมือนกับบนโต๊ะ!!"

​

โจไรนำเหรียญของทัฟโทรี่มาวางเทียบกับเหรียญของตนดู

ของโจไร ด้านหลังจะเป็นลวดลายรูปสัตว์เน็น แต่ของทัฟโทรี่จะเป็นรูปโจไร

​

​

โจไร: จริงด้วย ถึงด้านหน้าจะเป็นลวดลายเดียวกัน แต่ด้านหลังไม่เหมือนกัน!

​

คุราปิก้า: ถ้าอย่างนั้น ช่วยยืนยันเรื่องนี้ด้วยการมอบเหรียญให้บอดี้การ์ดของพระองค์ดูครับ

​

​

"เอาสิ"

โจไรหยิบเหรียญ [10] อันมีตัวเลขสูงที่สุดขึ้นมา แล้วยกมันให้กับ...

​

"คุราปิก้า ข้ามอบเหรียญ [10] ให้เจ้า"

​

​

..

​

​

"!!"

​

​

​

"ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวไง"

"ให้เหรียญ [10] ของข้าไป จะได้ทดสอบด้วยว่าตัวเลขของมันจะเปลี่ยนตามเจ้าของด้วยหรือไม่" โจไรย้ำเมื่อเห็นคุราปิก้าชะงัก

​

​

​

คุราปิก้า: เข้าใจแล้วครับ... (นี่มัน...ประมาทไม่ได้เลย)

​

(ยังไงก็ต้องรับไว้เพื่อหลีกเลี่ยงความไม่ไว้ใจ...)

​

(ถ้าเกิดเหรียญนี้เป็นรูปแบบกึ่งควบคุมที่ทำงานด้วยการรับเหรียญ... พลังงานที่สะสมแค่สิบวันคงยังไม่สามารถออกคำสั่งให้ฆ่าใครได้...!)

(ดูจากข้อจำกัดที่เหรียญจะเพิ่มมาแค่วันละเหรียญ ความสามารถนี้คงหวังผลระยะยาว... หรือก็คือ มันจะส่งผลออกมาในตอนที่โจไรขึ้นเป็นกษัตริย์ แบบนี้เข้ากับนิสัยมองการณ์ไกลของเขามากกว่า)

​

(รับมาตอนนี้คงไม่เป็นไร...)

​

คุราปิก้ายื่นมือไปรับ มีออร่าพุ่งออกมาจากเหรียญเล็กน้อย

เมื่อคุราปิก้าลองดูเหรียญ ตัวเลขที่เคยเป็น [10] ตอนนี้กลับเป็นแค่ [1] และเมื่อพลิกอีกหน้าของเหรียญ ลวดลายที่เคยเป็นรูปสัตว์เน็นก็กลายมาเป็นรูปโจไรไปแล้ว

​

คุราปิก้า: ทั้งลวดลายและตัวเลขเปลี่ยนไปครับ ดูเหมือนว่าการเปลี่ยนเจ้าของ จะทำให้การนับวันถูกรีเซ็ต...

องค์ชายครับ ผมจะคืนเหรียญให้กับท่าน ช่วยตรวจสอบลวดลายและตัวเลขดูอีกทีครับ

​

​

โจไรยื่นมือไปรับเหรียญ

"อืม ลวดลายกลับมาเป็นแบบเดิมแล้ว แต่ตัวเลขไม่เปลี่ยนกลับมาเป็น [10]"

​

​

คุราปิก้า: ผมพอจะมีทฤษฏีคร่าวๆ เกี่ยวกับความสามารถของพระองค์ขอรับ

โจไร: ว่ามา

คุราปิก้า: ตรงนี้เลยหรือครับ

​

คุราปิก้าเหลือบมองโคเวนโทบะ ทหารของเบนจามินที่มาเฝ้ายามในห้อง 1003

​

โจไร: เอาสิ ชั้นมั่นใจว่าความสามารถของชั้น คงไม่เป็นอันตรายกับเบนจามินหรอก...

​

..

​

(ตามที่คาด องค์ชายลำดับสามมีทักษะการเจรจาและจิตวิทยา ตราบใดที่เราตามทันความคิดและให้ความยำเกรง เขาก็จะยังเป็นพันธมิตรกับเรา... ดังนั้น... เราควรจะให้ข้อมูลที่เป็นใช้เป็นอาวุธหรืออาจเป็นอันตรายให้แก่เขา)

​

"ผมมีความคิดว่าสัตว์เน็นขององค์ชายโจไรเป็นสายแปรสภาพรูปแบบสะสมพลังขอรับ เงื่อนไขของมันสนับสนุนให้ครอบครองเหรียญเป็นเวลานาน จึงขอสันนิษฐานว่าเหรียญจะค่อยๆ สะสมออร่า เพื่อนำไปเป็นพลังต่างๆ ในอนาคตครับ"

​

"คาดว่าภายในครึ่งปี หรือเมื่อตัวเลขของมันสูงถึง "จำนวนใดจำนวนนึง" เจ้าของเหรียญอาจถูกเปิดช่องออร่าและกลายเป็นผู้ใช้เน็น"

​

"หรืออาจเป็นแบบที่องค์ชายคาดการไว้ เมื่อครบ 64 วันก็อาจทำให้ผู้ครอบครองใช้ความสามารถเน็นได้ วิธีนี้เป็นวิธีที่ทำให้ใช้เน็นได้ง่ายที่สุดโดยไม่ต้องฝึกฝนและรับความเสี่ยง"

​

"รูปแบบสะสมพลัง มักพบในคนที่มีเหตุผลและมองการไกล"

"จึงเป็นไปได้ว่า ความสามารถนี้จะแสดงพลังที่แท้จริงออกมาหลังจากที่องค์ชายได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แล้วขอรับ"

​

คุราปิก้าอธิบาย แต่ในใจยังคิด

​

(แต่ว่าสัตว์เน็นไม่มีทางมอบพลังให้คนอื่นโดยไม่หวังผลแน่ เป็นไปได้สูงว่ามันอาจเป็นรูปแบบกึ่งบังคับ ที่ทำให้คนมาจงรักภักดีต่อโจไร...)

​

(เราควรปิดบังเรื่องรูปแบบกึ่งบังคับไว้ก่อนที่เรื่องจะใหญ่โตไปกว่านี้)

​

(ยิ่งไปกว่านั้น... ยังมีคนที่ "แอบ" เอาเหรียญของวันแรกไปซ่อน...)

​

​

(ทหารของเบนจามิน โคเวนโทบะ)

​

​

(วันนี้เป็นวันที่ 11 ของการเดินเรือ ความสามารถเน็นที่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับเวลา มักจะแสดงผลทันทีที่มันทำงาน... ดังนั้น เหรียญที่ผ่านสิบวันจนมีตัวเลข [10] ควรมี 2 เหรียญ)

​

(หมายความว่า มีคนที่เก็บเหรียญของวันแรกไปแล้วไม่แสดงตัว)

(คนที่เข้าใจสถานการณ์นี้ดีแต่ไม่ยอมให้ข้อมูลกับโจไร)

(ในที่นี้มีแค่หมอนี่...)

​

(เหรียญจะปรากฏขึ้นมาช่วงบ่ายโมง เราสามารถเช็คเวรยามเพื่อดูว่าใครคุ้มกันโจไรอยู่ในเวลานั้นได้...ถ้าหาข้อมูลของโคเวนโทบะได้เพิ่ม เราจะสามารถใช้มันแลกเปลี่ยนกับโจไรได้)

​

​

คุราปิก้าเหลือบมองไปทางโคเวนโทบะ ที่ยืนจับจ้องเหตุการณ์นี้อย่างละเอียดอยู่จากมุมห้อง

​

..

​

"เฉียบแหลมจริงๆ คุราปิก้า เท่านี้ข้าก็จะได้มีสมาธิไปจัดการเรื่องพี่น้องข้าได้เสียที"

โจไรกล่าวชม

​

​

คุราปิก้า: ตอนนี้พระองค์ควรเก็บเหรียญทั้งหมดไว้กับตัวก่อน เผื่อว่าจำนวนของเหรียญ อาจส่งผลกับความสามารถของเหรียญด้วยครับ

​

​

"เข้าใจแล้ว งั้นข้าจะมอบเหรียญที่ได้มาวันนี้ให้แก่เจ้า แล้วจะเก็บที่เหลือไว้ล่ะกัน"

โจไรตอบรับพร้อมกับส่งเหรียญที่ว่าให้

​

​

คุราปิก้า: ขอบคุณครับ

​

​

...

​

​

"มีอีกเรื่องนึงที่อยากเรียนให้ทราบครับเกี่ยวกับคลาสเรียนเน็นรอบสองเริ่มพรุ่งนี้"

คุราปิก้าพูดขึ้น

​

​

โจไรพยักหน้ารับ "เอาเลย ยิ่งได้ข้อมูลมามากยิ่งดี ถึงข้าจะเป็นห่วงความปลอดภัยของเจ้ากับวาเบิลก็เถอะ"

(หึ... เจ้ากับข้า อย่าได้คิดว่าเราเท่าเทียมกันเชียวล่ะ ข้อมูลพวกนี้ข้ายอมแลกด้วยความปลอดภัยของวาเบิลก็พอแล้ว)

​

​

...

​

​

"ขอบคุณครับ"

แม้จะเอ่ยปากตามน้ำไปกับโจไร แต่ในใจของคุราปิก้าก็ยังลังเล

​

(การแลกข้อมูลเรื่องเน็นกับความคุ้มครองจากโจไรมีประโยชน์ก็จริง แต่ก็มีความเสี่ยงสูง...)

​

(โจไร เป็นหนี่งในองค์ชายที่มีเส้นสายกับมาเฟียที่มีสมาชิกร่วม 200 คนภายในเรือนี้ สมดุลของมาเฟียจะเปลี่ยนไปตามการกระทำของพวกระดับสูง หรือในที่นี้ก็คือพวกองค์ชายที่ให้การสนับสนุน หากมีอะไรเกิดขึ้นกับโจไร เซอรีโดนีช และลูซูรุส ​ ทุกอย่างจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที)

​

(แล้วใครที่จะได้ผลประโยชน์จากสงครามนี้...? เบนจามิน!! หากกระตุ้นให้พวกมาเฟียขัดแย้งกันรุนแรงมากขึ้น ก็จะมีเหตุผลให้ใช้กฏอัยการศึกเพื่อควบคุมและจับตาดูความเคลื่อนไหวขององค์ชายทุกพระองค์โดยอ้างความปลอดภัย เบนจามินสามารถใช้สถานการณ์นี้บงการทุกอย่างได้ตามใจชอบ)

(แต่ว่าจะทำลายสมดุลที่พวกมาเฟียรักษากันมาหลายปีได้อย่างไร วิธีที่ง่ายที่สุดคือการลอบสังหารบอสที่หนุนหลัง หากเกิดสถานการณ์ที่ว่า "บอสถูกมาเฟียกลุ่มอื่นลอบสังหาร" สงครามก็จะเกิดและกฎอัยการศึกก็จะถูกใช้)

​

(เป็นไปได้ว่า เบนจามินตั้งใจจะลอบสังหาร โจไร เซอรีโดนีช ลูซูรุสเพื่อการนั้น)

(และถ้าวาเบิลอยู่ภายใต้ความคุ้มครองของโจไร เบนจามินก็คงไม่ลังเลที่จะใช้วาเบิลเพื่อเพิ่มความรุนแรงให้ดูเป็นฝีมือของมาเฟีย)

​

​

(บางที การอยู่ในห้อง 1014 ที่มีบอดี้การ์ดจากหลายองค์ชายช่วยกันจับตาดูอาจปลอดภัยกว่าการตกเป็นเป้าของเบนจามินในห้อง 1003)

(แต่ เน็นงูที่ยังเป็นปริศนาอาจเป็นฝีมือของบอดี้การ์ดคนใดคนนึงในนั้น...)

​

(ต้องเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดโดยใช้สัญชาตญาณ... ไม่ว่าจะเลือกทางไหน มันก็ไม่ต่างกับการเดินบนน้ำแข็งแผ่นบางๆ...)

​

​

คุราปิก้าคิดหนัก ขณะที่มองไปทางวาเบิลและโจไร

​

​

..

​

​

...

​

​

​

ชั้น 3 ของเรือ

เตียงผู้ป่วยที่ถูกเข็นไปตามทางเดิน โดยมีทีมแพทย์จากสมาคมฮันเตอร์นำโดยชีเดิลเป็นผู้ดูแล

​

"เป็นไปได้ว่าศีรษะจะกระแทกจนหมดสติ เตรียมการตรวจเลือดและสแกนสมองในทันที"

"ติดต่อบอดี้การ์ดของฮาลเคนเบิร์ก ซักถามเกี่ยวกับสุขภาพเขาภายในอาทิตย์นี้โดยละเอียด"

​

"อย่าลืมตรวจสารคัดหลั่งที่มาจากอาเจียนด้วยล่ะ"

​

​

ชีเดิลสั่งเหล่าแพทย์ผู้ช่วยที่เดินตามมา

​

​

​

รถเข็นนั้น ถูกมองอยู่ห่างๆ จากบัลซามิลโก้ ที่ในขณะนี้มีฮาลเคนเบิร์กเป็นคนคุมร่าง

​

​

...

​

​

"จิตของคนที่ถูกธนูยิงจะไม่ตื่นตราบใดที่เรายังไม่หลับ"

"อาการหลับไม่ตื่นนี้จะดูเหมือนกับโคม่า ทำให้การรักษายืดเยื้อและกลายเป็นผลดีกับเรา"

"ถ้าให้แม่ปฏิเสธการชันสูตร ทุกอย่างจะจบลงด้วยอาการอวัยวะล้มเหลวที่ไม่ทราบที่มา"

​

บัลซามิลโก้โทรแจ้งเบนจามิน ถึงผลงานลอบสังหาร

"ฮาลเคนเบิร์กอาเจียนและถูกส่งเข้าสถานีพยาบาลกลาง"

"อีกครึ่งวัน เตรียมรับฟัง "ข่าวดี" ได้เลยครับ""

​

เบนจามินที่กำลังฟังอยู่ปลายสาย เกิดความระแวงว่าสถานการณ์อาจจะเปลี่ยนไปถ้าทีมแพทย์ของสมาคมฮันเตอร์ถูกดึงเข้ามายุ่ง

เบนจามิน: ดีมาก ชั้นจะส่งกองทหารและทีมแพทย์เข้าไปจัดการเอง จับตาดูสถานการณ์ไว้ให้ดี

​

"ครับ"

บัลซาวางสายจากเบนจามิน

​

ในใจของฮาลเคนเบิร์กกำลังลุกโชนด้วยไฟจากแผนการเสี่ยงชีวิตที่กำลังคืบหน้าไปด้วยดี

​

..

​

(การสลับร่างของชิคาคุกับสุมิโดริช่วยยืนยันสมมติฐานหลายอย่าง

ในตอนที่สุมิโดริตื่นขึ้นหลังจากการยิงนั้น คนที่อยู่ในร่างแจ้งรหัสยืนยันตนว่าเป็นชิคาคุ

พิสูจน์ได้ว่ามีเพียงดวงจิตเดียวเท่านั้นที่สามารถมีสติอยู่ได้ โดยลำดับจะถูกยกให้กับฝ่ายเราที่เป็นคนใช้ความสามารถก่อน)

​

(ตราบใดที่สุมิโดริยังมีสติ ชิคาคุก็จะถูกบังคับให้หมดสติไม่ว่าจะพยายามปลุกยังไง สิทธิ์ขาดในการควบคุมร่างได้ก่อนนี้เป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการเตรียมใจสละชีวิต)

​

..

​

(ความสามารถของเรา จะบังคับให้เกิดการสลับ "จิต" ระหว่างคนในกลุ่มที่ดึงออร่ามาใช้ กับเป้าหมายที่ถูกธนูยิง)

​

(คำว่า "ตาย" ในศึกชิงบัลลังก์นั้นไม่ถูกอธิบายไว้ให้ชัดเจน กรณีแบบนี้จึงพอสรุปได้ว่าจะต้องตายทั้งร่างกายและจิตใจ... ดังนั้น ในกรณีที่จิตกับร่างแยกกันอยู่คนละที่ (จิตและร่างไม่ตาย) เราไม่ก็จำเป็นต้องพิสูจน์อะไร)

​

​

(หากทั้ง 2 ร่างยังอยู่ดี จะมีเพียง "1 จิต" เท่านั้นที่ตื่นได้ และสิทธิ์นั้นจะตกอยู่กับฝั่งเราที่เป็นผู้ใช้ก่อน)

​

​

(แต่ที่ต้องพิสูจน์ คือในกรณีที่มีร่างของใครตาย)

​

(เราได้พิสูจน์ (จากชิคาคุ) ว่า)

(1. จะเกิดอะไรขึ้นกับจิตของฝ่ายเรา (สุมืโดริ) ถ้าร่างของเป้าหมาย (ชิคาคุ) ตายก่อน)

(2. จะเกิดอะไรขึ้นกับจิตของเป้าหมาย (ชิคาคุ) ถ้าไม่มีร่างให้กลับไป แล้วต้องสูญเสียร่างที่จิตอาศัยอยู่ในตอนนั้นอีก)

​

(สำหรับ ข้อ 2. มันชัดเจนอยู่แล้ว เพราะความสามารถนี้ถูกสร้างมาจากสัตว์เน็นที่คอยช่วยเหลือฝ่ายเราในศึกชิงบัลลังก์ (ไม่มีร่างให้จิตอยู่และไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกับสัตว์เน็นที่เป็นเจ้าของพลัง=ไม่รอดสถานเดียว))

​

(ส่วนข้อ 1. ความยินยอมพร้อมใจที่จะเสียสละตัวเองเพื่ออุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ เป็นเงื่อนไขของความสามารถของเราอยู่แล้ว ดังนั้น มันไม่ใช่ปัญหาเลยว่าจิตจะเป็นยังไง)

​

(สิ่งที่เราต้องคิด คือวิธีต่อสู้ที่จะนำไปสู่ประเทศในอุดมคติ เพื่อตอบแทนการเสียสละของพวกเค้าเท่านั้น)

​

..

​

(มีโอกาสเพียงน้อยนิด ที่จิตของเราจะถูกสุ่มให้สลับกับบัลซามิลโก้)

(แต่เราก็ได้พิสูจน์เผื่อไว้แล้วกับทหารของเบนจามิน (วิคต์))

​

(หากร่างของฝ่ายเราตายก่อน)

(จิตของเป้าหมายจะกลับสู่ร่างเดิมและอาศัยอยู่ร่วมกันกับจิตของฝ่ายเรา)

(ในกรณีนี้ลำดับของจิตที่ตื่นและได้ควบคุมร่างก่อน จะถูกยกให้กับเจ้าของร่างทันที)

​

​

(หมายความว่า ทันทีที่ร่างของเราตาย!!)

(จิตของบัลซามิลโก้จะกลับมาที่ร่างของตัวเอง แล้วจิตของเราจะถูกบังคับให้หลับ)

​

(ดังนั้น ก่อนที่ร่างของเราจะตาย เราจะให้ร่างนี้กินยาไว้)

(มันจะซื้อเวลาให้เราต่อได้อีกราว 10 ชั่วโมงหลังจากที่ร่างของเราตาย)

​

(แล้วก่อนหน้าที่เวลาของเราจะหมด)

(เราจะต้องลงมือ... เพื่อเอาชนะศึกชิงบัลลังก์!)

​

​

​

...

​

​

​

ในโรงพยาบาลกลาง ชั้น 3

ทหารและทีมแพทย์ที่เบนจามินส่งมา ได้ไล่พวกชีเดิลออกจากห้อง และเข้าควบคุมการรักษา

​

ร่างของฮาลเคนเบิร์กในสภาพอิดโรยถูกรายล้อมด้วยแพทย์จำนวนมาก

​

​

ในขณะนั้น องค์ชายแต่ละคนก็ดำเนินชิวิตไปตามปกติ

​

​

​

...

​

​

ห้อง 1004

องค์ชาย 4 เซอรีโดนีชยังคงให้ซาลคอฟจับเวลาในการเข้าถึงเซ็ตสึของตนเหมือนเช่นเคย

​

03.496 วินาที

ซาลคอฟหน้าซีดเมื่อเห็นเวลาที่ถูกบีบจนเหลือน้อยลงเรื่อยๆ

(เทต้า จะให้ชั้นทำไงดีเนี่ย มันมาถึงขั้นนี้ได้ด้วยเวลาแค่ 3 วันเองนะ...)

​

แต่ตัวเลขนั้นยังไม่ทำให้เซอรีโดนีชพอใจ

"มีคนเคยบอกว่าการก้าวข้ามตัวเองให้ได้นั้นยากราวกับการปีนกำแพง ดูท่าจะจริงแฮะ เวลามันไม่ดีขึ้นจนเกือบยอมแพ้แล้วนะ..."

​

องค์ชายสี่กัดฟันพูด

​

"แค่ความคิดโลกสวยว่าต้องทำได้ มันไม่ช่วยให้ข้ามกำแพง 1 วิ ได้สินะ"

"เวรเอ๊ย แบบนี้ได้เสียเวลาเป็นอาทิตย์หรือไม่ก็สองอาทิตย์แน่ๆ"

​

"แต่กูจะทำให้ได้!"

"ต้องเค้นทุกอย่างออกมาให้หมด!!"

​

เซอรีโดนีช กัดฟันพูดด้วยความโกรธ ก่อนจะเริ่มรวบรวมออร่าไว้ที่ท้องน้อย

​

​

...

​

​

ซาลคอฟ: (เข้าใจแล้ว......)

​

(ขีดจำกัดต่างๆ ที่มันตั้งไว้ให้ตัวเอง... สูงส่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา)

(มันรู้จักตัวเองดีพอ ว่าถ้าใช้เวลาทำต่อไปเรื่อยๆ มันจะทำได้สำเร็จ)

​

(แล้วจากนี้ล่ะ เห็นว่ามันจะซ้อมมวยกับเราใช่มั้ยนะ?)

​

​

​

...

​

​

ห้อง 1014

คุราปิก้า (วาเบิล) บาบี้ไมน่า (เบนจามิน) ซาคาตะ (โจไร) ฮาชิโตะ (โจไร)

กำลังปรึกษาเรื่องการวางกำลังคุ้มกันอยู่

​

คุราปิก้าบอกว่า

"ในวันพรุ่งนี้ 9 โมงเช้าจะมีการจัดคลาสสอนเน็นรอบ 2 ขึ้น"

"สิ่งที่เปลี่ยนไปคราวนี้คือ มีทหารขององค์ชายลำดับ 2 คามีล่ามาร่วมด้วย"

​

คุราปิก้าถามความเห็นคนอื่นว่าคิดว่ายังไงกับเรื่องนี้

​

ซาคาตะ: การฝึกยืนยันได้ว่าเป็นความจริง ก็คงจะสนใจขึ้นมาล่ะมั้ง

ฮาชิโตะ: แค่เข้าร่วมก็ยังได้ข้อมูลบอดี้การ์ดของฝ่ายอื่นด้วย

​

บาบิไมน่า: (มีข่าวลือว่าคามีล่ามีกองทัพผู้ใช้คำสาป หรือว่าเป้าหมายจะคือวาเบิล...)

คุราปิก้า: (จดหมายของเซ็นริตสึไม่มีข้อมูลของคามีล่า แต่ตามบุคลิกแล้ว การส่งคนมาแบบนี้ ย่อมมีจุดประสงค์แอบแฝงที่ไม่ใช่การมาฝึกแน่)

​

(บางที สถานการณ์อาจบีบให้เธอลงมือ... ไม่ว่าจะอย่างไร เราก็ต้องให้คำตอบกับโจไรอย่างระวัง)

​

​

คุราปิก้า เรียกบิลและชิมาโนะ มากำกับเรื่องการคุ้มกันองค์ชายวาเบิล และย้ำทั้งคู่ว่าห้ามออกห่างจากองค์ชายเด็ดขาด

​

​

​

...

​

​

โรงพยาบาลกลาง ชั้น 3

ชีพจรของฮาลเคนได้ดับลง

เหล่าหมอได้ส่งสัญญาณมือให้กันเป็นอันรู้ว่า คนไข้สิ้นลมแล้ว

​

​

บัลซามิลโก้ได้โทรไปรายงานเบนจามินดังเช่นเคย

"พระศพ จะถูกจัดส่งผ่านบันไดกลางของเรือภายในวันพรุ่งนี้ครับ"

​

"เขาได้สั่งเสียไว้ 3 อย่างก่อนตายว่า"

"1. ให้ประกาศเรื่องนี้สู่สารธารณะ"

"2. ให้มีการจัดงานส่งศพจากผู้สนับสนุนของเขา"

"3. ให้บอดี้การ์ดส่วนตัวของเขา เป็นคนเคลื่อนย้ายโลง"

​

"คิดเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ"

บัลซาถามความเห็นของเบนจามิน

​

..

​

เบนจามิน: อนุญาต

"เราให้ความเคารพปณิธานของเค้าอยู่แล้วต่อให้ไม่มีการขออะไรมา ผู้สนับสนุนของเขาอาจโกรธแค้นเอาได้ ถ้าเราไม่ให้เกียรติเค้าตามความเหมาะสม"

​

"แจ้งกับผู้พิพากษาสูงสุด คลีอา ว่าเราจะขอถอนฟ้อง บอดี้การ์ดของเค้าจะได้ลงมารับศพไปจัดพิธีได้อย่างสมเกียรติ"

​

"คอยดูแลทุกอย่างให้ด้วยล่ะ นายทำงานดีมาก"

เบนจามินกำชับบัลซาก่อนวางสาย

​

​

​

"ครับ" (ขอบคุณนะ...พี่ชาย)

ฮาลเคนเบิร์กในร่างของบัลซามิลโก้ตอบรับ

​

​

​

...

​

​

​

​

ที่ชั้น 3 ของเรือ

ข่าวการจากไปของฮาลเคนเบิร์กได้ถูกประกาศ

​

"พระศพจะถูกลำเลียงขึ้นไปที่ชั้น 1 ในช่วงบ่ายของวันนี้"

"สำหรับผู้ที่อยากร่วมถวายความไว้อาลัยในครั้งสุดท้ายนี้ ขอให้มารวมตัวกันที่บันไดกลางของชั้น 3"

​

คำประกาศดังก้องไปทั่วเรือ

พวกโนบุนากะที่หยุดฟังไปซักพัก ก็หันมาถามกันเองว่าบุคคลที่เป็นข่าวนั้นเป็นองค์ชายที่มีเส้นสายกับมาเฟียหรือไม่ แต่พอรู้ว่าไม่ใช่ ฟิงคส์ก็บอกให้เลิกสน แล้วให้รีบลงไปชั้น 4 เพื่อจัดการเออิ ตามแผนเดิม

​

โนบุ: ไม่ต้องรีบน่า ฮินริกิหัวไวพอจะซื้อเวลาให้เรา ชั้นมีเรื่องอยากยืนยันจากอีกสองแก๊งค์ก่อนจะไปลุยพวกมัน

​

ฟิงคส์: หา? เกี่ยวอะไรกับพวกเออิรึไง?

​

โนบุ: เกี่ยวสิ

​

เฟย์: ไม่เห็นจำเป็น กำลังจะไปจัดการพวกมันอยู่ไม่ใช่รึไง

​

โนบุ: ก็แค่อยากยืนยันว่าจะให้จัดการพวกมันยังไง ขึ้นกับคำตอบ ชั้นว่าพวกเราอาจได้รวมตัวกันจัดเต็มก็ได้

​

เฟย์: งั้นยิ่งไม่จำเป็นไปใหญ่

​

ฟิงคส์: น่าขยะแขยงนะแก ถูกใจศัตรูจนเอามาคิดมากเนี่ย

​

โนบุ: เออ ถ้าคิดมากไปเองก็ดี แต่ถ้าตูคิดถูกล่ะก็ พวกเอ็งโดนเตะแน่!

​

​

​

แมงมุม เคลื่อนไหวอีกครั้ง!!!

​

​

​

...

​

​

จบตอนครับ

​

​

​

​

​

โน๊ตเพิ่มเติมนะครับ

ตอนฮาลเคนเบิร์กคิดเรื่องความสามารถตัวเอง คำว่า "เป้าหมาย" เขียนด้วยคันจิว่า "องค์ชายคนอื่น" แต่กำกับให้อ่านว่า "เป้าหมาย" เป็นการเล่นคำตามสไตล์จารย์แกอีกล่ะ แต่พอทำให้เห็นภาพว่าฮาลมีแผนจะใช้ความสามารถนี้ใส่องค์ชายคนอื่นแน่ๆ

​

ความสามารถโจไร สรุปตามที่คุราอธิบาย

- จะดรอปเหรียญมา 1 เหรียญในทุกวัน

- ตัวเหรียญจะเปลี่ยนไปตามผู้ถือครอง แบ่งเป็นของตัวโจไรเอง กับเหรียญที่ให้คนอื่น โดยเหรียญจะต่างกันที่รูปด้านหลัง

- ทุก 10 วัน เหรียญจะเพิ่มเลข 0 ต่อท้าย เป็น 10, 100, 1000 ไปเรื่อยๆ (คาดการ)

- ไม่รู้ว่าสะสมไปทำอะไรได้ แต่น่าจะเกี่ยวกับการมอบความสามารถพิเศษ (เน็น) ให้แก่ผู้ถือครอง โดยจะแอคทีฟเมื่อเก็บไปถึงราวๆ ครึ่งปี (คาดการ)

- คุรายังระแวงว่า จะมีผลกึ่งควบคุม ครอบงำให้คนที่ถือครองมีความภักดีต่อโจไรเป็นข้อแลกเปลี่ยน

​

​

ความสามารถของฮาล อ่านแล้วยังมีจุดงงๆ ต้องรอให้เรื่องเฉลยลึกกว่านี้อีกหน่อยครับ แต่ตอนนี้เข้าใจตามนี้

​

- รวบรวมออร่าจากผู้ที่ให้ความสนับสนุนจำนวนมากมาเป็นธนูที่รวดเร็วและรุนแรงจนไร้ทางหลบเลี่ยงและป้องกัน

- ยิง "จิต" ของคนใดคนนึงในนั้นแบบสุ่ม ไปใส่ในร่างของเป้าหมาย

- เป้าหมายที่โดนธนูกับคนของฝ่ายเรา (สุ่ม) จะสลับร่างกันโดย...

​ ​ - ฝ่ายเราจะเป็นคนฟื้นในร่างเป้าหมายก่อน ในขณะที่เป้าหมายจะหลับในสภาพโคม่าในร่างฝ่ายเรา

​ ​ - จะสลับกันตื่นเมื่ออีกฝ่ายหลับหรือหมดสติเท่านั้น และไม่มีทางปลุกได้

​

- หากร่างของเป้าหมายเสียชีวิต

​ ​ - จิตของเป้าหมายจะตื่นมาในร่างของฝ่ายเราทันที

​ ​ - ทั้งสองจิตอยู่ร่วมกัน โดยการสลับกันตื่น/หลับ

- หากร่างของฝ่ายเราเสียชีวิต

​ ​ - จิตของเป้าหมายจะกลับมาในร่างเดิม และทำการยึดสิทธิ์การควบคุมร่างทันที

​ ​ - ทั้งสองจิตอยู่ร่วมกัน โดยการสลับกันตื่น/หลับ

​

- หากเสียชีวิตทั้งสองร่าง

​ ​ - จิตของศัตรูยังไงก็คงไม่รอดอยู่แล้วเมื่อไม่มีร่าง เพราะนี่เป็นพลังของสัตว์เน็นฝ่ายเรา

​ ​ - จิตของฝ่ายเรา ฮาลบอกว่าทุกคนพร้อมเสียสละอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องหาคำตอบ

​